ศูนย์แม่ข่ายประสานงาน อพ.สธ-จฬ. ร่วมกับ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จัดการฝึกอบรมปฏิบัติการงานฐานทรัพยากรท้องถิ่น หลักสูตร 6 งานฐานทรัพยากรท้องถิ่น รุ่นที่ 1/2566
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 2566 ศูนย์เครือข่ายการเรียนรู้เพื่อภูมิภาค จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ในฐานะผู้รับผิดชอบการดำเนินงานศูนย์แม่ข่ายประสานงาน โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ศูนย์แม่ข่ายประสานงาน อพ.สธ.-จฬ.) ร่วมกับ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จัดการฝึกอบรมปฏิบัติการงานฐานทรัพยากรท้องถิ่น หลักสูตร 6 งานฐานทรัพยากรท้องถิ่น รุ่นที่ 1/2566 ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สระบุรี ตำบลชำผักแพว อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงบุคลากรจากศูนย์ประสานงาน อพ.สธ. เข้าร่วมการอบรม จำนวน 66 คน จาก 35 หน่วยงานใน 18 จังหวัด
ภายในงานได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ดร.นรินทร์ หิรัญสุทธิกุล รองอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและผู้อำนวยการศูนย์แม่ข่ายประสานงาน อพ.สธ.-จฬ. เป็นประธานเปิดการอบรม โดยมีนายธานินทร์ สันคะนุช เจ้าหน้าที่โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.) เป็นวิทยากรในการอบรม ร่วมด้วยนายรชต พรหมศร ผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนตำบลกุดธาตุ และนายภูมิมินทร์ พรหมศร นักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยชำนาญการ เทศบาลตำบลโนนทอง และบุคลากรศูนย์แม่ข่ายประงาน อพ.สธ.-จฬ. เป็นผู้ช่วยวิทยากร โดยการฝึกอบรมครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งผู้เข้ารับการอบรมจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับ 6 งานฐานทรัพยากรท้องถิ่น ได้แก่ งานปกปักทรัพยากรท้องถิ่น งานสำรวจเก็บรวบรวมทรัพยากรท้องถิ่น งานปลูกรักษาทรัพยากรท้องถิ่น งานอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ทรัพยากรท้องถิ่น งานศูนย์ข้อมูลทรัพยากรท้องถิ่น และงานสนับสนุนในการอนุรักษ์และจัดทำฐานทรัพยากรท้องถิ่น
การฝึกอบรมปฏิบัติการงานฐานทรัพยากรท้องถิ่น หลักสูตร 6 งานฐานทรัพยากรท้องถิ่น มุ่งเน้นให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ความเข้าใจในแนวทางการสนองพระราชดำริ การดำเนินงาน การบริหาร และการจัดการองค์ความรู้ตามแนวทางโครงการ อพ.สธ. จนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งเป็นแนวทางการเก็บรวบรวมข้อมูลทรัพยากรท้องถิ่น อันจะเป็นแหล่งศึกษาหาความรู้และปลูกฝังจิตสำนึกให้เยาวชนต่อไป
